เก็บอัฐิ: ส่งวิญญาณผู้ล่วงลับสู่สุคติด้วยความเคารพ
การเก็บอัฐิ เป็นพิธีกรรมสำคัญในงานฌาปนกิจไทย เป็นการเก็บกระดูกที่เหลือจากการเผา เพื่อบรรจุในโกศ และนำไปประดิษฐานไว้เพื่อเคารพบูชา หรือลอยอังคาร บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนและรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บอัฐิ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับการสูญเสีย
ขั้นตอนการเก็บอัฐิ
- รอให้ไฟดับสนิท: หลังจากเสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจ ต้องรอให้ไฟดับสนิท อุณหภูมิภายในเมรูลดลง เจ้าหน้าที่จะทำการเปิดฝาเมรุ
- เก็บอัฐิ: เจ้าหน้าที่จะใช้คีมคีบกระดูกที่เหลือจากการเผา คัดแยกชิ้นส่วนกระดูกออกจากเศษวัสดุอื่นๆ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
- ทำความสะอาดอัฐิ: เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดอัฐิ โดยใช้แปรงปัดเศษสิ่งสกปรก และอาจใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดเพิ่มเติม
- บรรจุอัฐิ: อัฐิที่สะอาดแล้ว จะบรรจุลงในโกศ ซึ่งมีหลายแบบให้เลือกตามความต้องการ เช่น โกศไม้ โกศหินอ่อน โกศทองคำ โกศเงิน ฯลฯ
- ปิดผนึกโกศ: เมื่อบรรจุอัฐิเสร็จเรียบร้อย จะปิดผนึกโกศด้วยกาว หรือตะปู
- อัญเชิญโกศ: อัญเชิญโกศขึ้นจากเมรุ นำไปวางบนแท่นสำหรับประกอบพิธี
พิธีกรรมหลังเก็บอัฐิ
หลังจากเก็บอัฐิเสร็จเรียบร้อย อาจมีพิธีกรรมเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่น ตัวอย่างพิธีกรรม ได้แก่
- พิธีสงฆ์อัญเชิญอัฐิ: นิมนต์พระสงฆ์มาสวดอวยพร อัญเชิญอัฐิไปยังสถานที่ที่เตรียมไว้
- พิธีลอยอังคาร: นำอัฐิไปลอยในแม่น้ำ ทะเล หรือสถานที่อื่นๆ ตามความประสงค์
- พิธีบรรจุอัฐิในสุสาน: นำอัฐิไปบรรจุในสุสาน
สถานที่เก็บอัฐิ
สถานที่เก็บอัฐิที่นิยมพบเห็น ได้แก่
- บ้าน: เก็บไว้บนหิ้งบูชา หรือในห้องพระ
- วัด: เก็บไว้ในเจดีย์ หรือกุฏิ
- สุสาน: เก็บไว้ในช่องบรรจุอัฐิ
ข้อควรระวังในการเก็บอัฐิ
- รอให้ไฟดับสนิท: ห้ามเก็บอัฐิขณะที่ไฟยังไม่ดับ เพราะอาจเกิดอันตราย
- ระวังการสัมผัสอัฐิโดยตรง: ควรใช้อุปกรณ์คีบ หรือช้อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- เก็บอัฐิในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก: เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
- ดูแลรักษาโกศ: ทำความสะอาด ปัดฝุ่น เช็ดถู เป็นประจำ