รูปแบบการสวดพระอภิธรรมในสังคมไทยปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบ
1. แบบทั่วไป หมายถึง แบบที่ใช้สวดในงานบำเพ็ญกุศลศพเพื่ออุทิศให้แก่บุคคลธรรมดา
2. แบบทำนองหลวง หมายถึง แบบที่ใช้สวดเฉพาะในงานพระราชพิธี คือ พิธีพระบรมศพ และพิธีศพที่มีความเกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์
พระอภิธรรม แปลว่า ธรรมอันประเสริฐ ธรรมอันยิ่ง ธรรมที่อยู่แท้จริงปราศจากสมมุติ เนื้อความในพระอภิธรรมเกือบทั้งหมด จะกล่าวถึงปรมัตถธรรมล้วน ๆ หมายถึงธรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง หรือมีความสำคัญมาก พระอภิธรรมเป็นปรมัตถธรรม คือธรรมขั้นสูง
พระอภิธรรม เรียกให้เต็มว่า พระอภิธรรมปิฎก เป็น 1 ใน 3 แห่งพระไตรปิฎก ได้แก่ พระวินัยปิฎก พระสูตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก
พระอภิธรรมปิฎกมีอยู่ทั้งสิ้น ๔๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แบ่งออกเป็น ๗ คัมภีร์ เรียกว่า พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ที่ใช้สวดในงานศพ ได้แก่
๑. คัมภีร์ธัมมสังคณี ว่าด้วยธรรมะที่ประมวลไว้เป็นหมวดเป็นกลุ่ม เรียกว่า กัณฑ์ มี ๔ กัณฑ์ ที่ใช้สวดในงานศพ คือ มาติกา (กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา อัพยากตา ธัมมา ฯ)
๒. คัมภีร์วิภังค์ แสดงการจำแนกปรมัตถธรรมออกเป็นข้อ ๆ แบ่งออกเป็น ๑๘ วิภังค์ เช่น จำแนกขันธ์ หมายถึง ขันธ์ ๕ อันประกอบด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ เรียกว่า ขันธวิภังค์
๓. คัมภีร์ธาตุกถา แสดงการจัดหมวดหมู่ของปรมัตถธรรม โดยสงเคราะห์ด้วย ธาตุ (ธรรมชาติที่ทรงไว้ซึ่งสภาพของตน)
๔. คัมภีร์ปุคคลบัญญัติ ว่าด้วยบัญญัติ ๖ ประการและแสดงรายละเอียดเฉพาะบัญญัติที่เกี่ยวกับบุคคล
๕. คัมภีร์กถาวัตถุ ว่าด้วยคำถามคำตอบประมาณ ๒๑๙ หัวข้อ ที่ถือเป็นหลักในการตัดสินพระธรรมวินัย
๖. คัมภีร์ยมก ในคัมภีร์นี้จะยกหัวข้อปรมัตถธรรมขึ้นวินิจฉัยด้วยวิธีถามตอบ โดยตั้งคำถามย้อนกันเป็นคู่ ๆ
๗. คัมภีร์มหาปัฏฐาน แสดงเหตุปัจจัยและแสดงความสัมพันธ์อันเป็นเหตุ เป็นผลที่อิงอาศัยซึ่งกันและกันแห่งปรมัตถธรรมทั้งปวงโดยพิสดาร (เหตุ ปัจจโย ฯ ที่ใช้สวดต่อจาก กุสลา ธัมมา ฯ ในงานศพ)